๑. หลักการใหญ่ของการเขียนเชิงวารสารสาสตร์ ในแนวคิดพื้นฐาน ทฤษฎี
๒. สื่อมัลติมีเดีย /สื่อรวม อธิบายแต่ละสื่อเป็นอย่างไร (ข้อแนะนำให้ดูดีๆว่าโจทย์ถามว่าอะไร)
๓. เรื่องการใช้คอมพิวเตอร์สืบค้นข้อมูล ให้อภิปราย ควร หรือไม่ควร ดีหรือไม่ดี
๔. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Social media / social network
หมายเหตุ : นักศึกษาที่เข้าห้องเรียนและส่งงานเลือกทำ ๒ ข้อ
กรอบและวิธีการตอบข้อสอบ
๑. หลักการใหญ่ของการเขียนเชิงวารสารสาสตร์ ในแนวคิดพื้นฐาน ทฤษฎี
หลักการทางวารสารศาสตร์
๑. ข้อเท็จจริง Fact
๑. สิ่งที่ตรงข้ามกับความไม่จริง(เปรียบเทียบคู่ตรงข้าม)
๒. เชื่อคนข้างมากว่าเป็นอย่างนั้น คนข้างมาเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น เช่น พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก ตกทางทิศตะวันตก
๓. ทดลอง ทดสอบด้วยเครื่องมือ ที่เชื่อถือได้ เช่น อากาศร้อน วัดด้วยทอมอมิเตอร์
๔. อะไรก็ตามที่ผู้พูดมีความน่าเชื่อถือ ผู้รู้ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือมีบุคลิกลักษณะที่ดี
เช่น ครู พ่อ แม่ นักวิชาการ
๕. เชื่อประสาทสัมผัสทั้ง ๕
๖. เชื่อความรู้สึกตนเอง เช่นสิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรทำ
๗. เชื่อที่เขาพูดต่อๆกันมา
๘. เชื่อด้วยความเป็นเหตุเป็นผล
ประเภทของข้อเท็จจริง
๑. ข้อเท็จจริงส่วนบุคคล
๒. ข้อเท็จจริงสาธารณะ
- ประเด็นที่เรางานด้านวารสารศาสตร์ใช้ข้อเท็จจริงสารธารณะ
ระดับความจริง
๑. รับรู้ด้วยตนเอง ประสาทสัมผัสทั้ง ๕
๒. การตีความ/แปลความหมาย (เช่นเขาเป็นใคร มีคุณลักษณะแบบไหน)
๓. พิสูจน์,ทดลอง,วิจัย (อย่างเป็นระบบ)
ภูมิปัญญา คือสิ่งที่สั่งสม และได้รับการยอมรับ ( เกิดเป็นองค์ความรู้ ที่เกิดจากการสะสมประสบการณ์ และกระบวนการทางสังคม)
๒.ประโยชน์(ผู้รับสาร)
- want = ความต้องการอารมณ์/ ความรู้สึก
- need = ความจำเป็น
ประโยชน์ (มองในส่วนกระทบสังคม)
ประโยชน์
ผู้ผลิต(ส่งสาร) กับผู้รับสาร
๓.ความน่าสนใจ
- ศิลปะทำให้มีสีสัน (ไม่เกินจริง)
๒.สื่อมัลติมีเดีย? /สื่อรวม? อธิบายแต่ละสื่อเป็นอย่างไร (ข้อแนะนำให้ดูดีๆว่าโจทย์ถามว่าอะไร)
- สื่อแต่ละสื่อจะแบ่งกัน และมีลักษณะพิเศษของตัวเอง เช่น ภาพ เสียง งานเขียน วิดิโอ
- ผสมกันโดยใช้เทคโนโลยีในการผสม
- เทคโนโลยี คือ การสร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นกระบวนการ software การผสานสื่อรวมสื่อ หลอมรวมกลายเป็นสื่อใหม่ โดยปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เป็นแหล่งรวมสื่อให้เข้าด้วยกัน..
๓.เรื่องการใช้คอมพิวเตอร์สืบค้นข้อมูล ให้อภิปราย ควร หรือไม่ควร ดีหรือไม่ดี
- หลักการอภิปราย(ความต่างระหว่างอภิปรายและอธิบาย / อภิปรายคือ ตอบอะไรก็ได้แต่ขอให้มีเหตุมีผลและหลักการ มีหลักฐาน มีข้อมูล มีตัวอย่างมายืนยัน สนับสนุน โดยเราต้องอภิปราย / ส่วนอธิบาย คือมีถูกมีผิดชัดเจน)
ข้อดี
- สืบหาข้อมูล สะดวก รวดเร็ว
เหตุผล ข้อมูลถูกรวบรวมไว้แล้ว และมีการจัดเป็นหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น หน่วยงาน องค์กร องค์ความรู้ต่างๆรวบรวมไว้
ข้อเสีย
- ข้อมูลอาจไม่จริง เหตุผล อาจโดนหลอก เข้าข้างความคิดตนเอง
- อาจความแม่นยำ เหตุผล อาจไม่ถูกทั้งหมด
- ความน่าเชื่อถือของข้อมูล เหตุผล..แหล่งข้อมูล
๔. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Social media / social network
หลักการทำข้อสอบ
๔.๑. อธิบายความหมาย Social media / social network
๔.๒. ประเภทของ Social media / social network
๔.๓. ข้อดี/ ข้อเสีย ประโยชน์ (พยายามยกตัวอย่าง)
ข้างสระน้ำ ราชมังคลาฯ นั่งติวกับเพื่อนๆ ๔ คน โก บอล จอย อ่าว หมู
ข้อความที่เขียน บนบล๊อกนี้ ผู้เขียนเรียบเรียงขึ้นจากการเข้าเรียน โดยการถ่ายทอดจากครูที่เป็นผู้สอน การคัดลอก ข้อมูลในบล๊อกนี้ผู้เขียนยินดีเสมอ ถ้าเกิดประโยชน์ และเกิดการแพร่หลายในความรู้ วิชาการ...ข้อมูลอาจมีผิดพลาด หลายประการ โปรดระลึกอยู่เสมอว่าข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลขั้นต้น ที่ยังไม่ได้อ้างอิงตามหลักวิชาการ ผู้เขียนขอขอบคุณ ครูบาอาจารย์ทุกท่านที่อบรมสั่งสอน ผู้เขียนได้อ้างอิงไว้แล้วในงานเขียนบล๊อกนี้
วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554
JR 201 ข้อสอบมี 5 ข้อ นะครับ..
คลิ๊กที่ภาพนะครับภาพจะขยายใหญ่ขึ้น
สรุปใครเข้าเรียนทำข้อ 1 - 3 นะครับ..
ใครไม่ได้ส่งงานครบ ทำข้อ 4 - 5 ด้วยครับ.
โชค G นะครับ
โดยอาณาจักร โกวิทย์
สรุปใครเข้าเรียนทำข้อ 1 - 3 นะครับ..
ใครไม่ได้ส่งงานครบ ทำข้อ 4 - 5 ด้วยครับ.
โชค G นะครับ
โดยอาณาจักร โกวิทย์
วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554
วิชา คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว JR 301
วิชา คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว JR 301
วันศุกร์ ที่ 17 มิถุนายน คาบที่3
เทคโนโลยี สารสนเทศ (2)
เกริ่นนำเข้าเรื่อง ประเด็นอาจารย์พูดถึง เทคโนโลยีมือถือ ประสิทธิภาพ การรองรับ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ช่วยรายงานการจัดเก็บข้อมูล บันทึก และประมวลข้อมูลให้รวดเร็ว และถูกต้อง ตัวอย่าง ประวัติคอมพิวเตอร์ ความรู้รอบตัว IBM เพิ่งฉลอง 100 ปี) การทำงาน เช่น ตู้ ATM ธนาคาร จะมี main board ขนาดใหญ่ประมวลข้อมูล
เทคโนโลยีเทคโนคมนาคม
ช่วยส่งผ่านข้อมูลที่ถูกประมวลผลตามสถานีต่างๆ ตัวอย่าง การเปลี่ยนระบบ analogue จะเปลี่ยนเป็นระบบ digital ระบบ คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ที่สามารถใส่โปรแกรม (software) สั่งงานให้รับทราบข้อมูล ประมวลข้อมูล เพื่อให้ได้สารสนเทศ ที่เป็นประโยชน์ และเก็บสารสนเทศนั้นไว้ใช้งาน
ภาษาคอมพิวเตอร์ ใช้ 0 และ 1 เป็นระบบประมวลผล
ประโยชน์คอมพิวเตอร์ทางตรง
ความรวดเร็ว (speed
ความน่าเชื่อถือ reliability
ความสามารถในการจัดเก็บ storage capability
ประโยชน์ทางอ้อม
เพิ่มประสิทธิผล+ประสิทธิภาพ : เร็วขึ้นและดีขึ้น
ช่วยการตัดสินใจ
ลดต้นทุน
การทำงานของคอมพิวเตอร์
(ภาพ)
คอมพิวเตอร์ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1.Hardware
2.Software
1.Hardware
Input devices
Processor
Output devices
Storage
Communication
Input : อุปกรณ์ที่ใช้เครื่องมือสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลและนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยแปลงให้เป็นสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่คอมพิวเตอร์เข้าใจและเหมาะสมกับการประมวลผล
Input Devices :
อุปกรณ์นำเข้าจึงเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลทั้งตัวเลข ภาพ เสียง และสัญลักษณ์ต่างๆ แล้วแปลงเป็นสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้
Input โดยตรง
อุปกรณ์ที่รับข้อมูลจากผู้ใช้โดยตรงและเห็นผลจากการทำงานที่ได้ทันทีจากหน้าจอ
คีย์บอร์ด
เมาส์
ปากกาแสง
จอสัมผัส
ไมโครโฟน
Input : จากสื่อบันทึกข้อมูล
เครื่องอ่านรหัสแท่ง
เครื่องกราดภาพหรือสแกนเนอร์
เครื่องอ่านซีดี
กล้องดิจิตอล
คอมพิวเตอร์ : Processor + memory
Processor
- เป็นตัวที่ใช้ประมวลผล บางครั้งเรียก central Processing unit (cpu)
เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมในคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ทำหน้าที่ในการแปลและทำงานตามคำสั่งโปรแกรม
สื่อสารกับ input และ storage devices
แปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
memory
RAM : ใช้ในการเก็บข้อมูลชั่วคราว หลังจากที่ถูกดึงข้อมูลจาก input device ก่อนที่ข้อมูลจะถูกประมวลผลและหลังจากที่ประมวลผลและก่อนที่จะปล่อยไปยัง input device
ข้อมูลในหน่วยความจำหาย ถ้าไม่มีไฟฟ้า หรือโปรแกรมถูกปิด
คอมพิวเตอร์ : output
Output : ผลลัพธ์จากการประมวลผลโดย CPU รูปแบบทั่วไปของ output เช่น ข้อความ ตัวเลข รูปภาพ เสียง
Screen (monitor) สามารถแสดงข้อความ ตัวเลข รูปภาพ หรือแม้แต่ วิดีโอ ในแบบสี
Printer สร้างรายงานที่ถูกพิมพ์ตามที่โปรแกรมสั่ง
คอมพิวเตอร์ : storage
Storage : การเก็บข้อมูลแบบถาวร แยกต่างจากหน่วยความจำ
จานแม่เหล็ก
จานแสง เช่น ดีวีดี ซีดี
เทปแม่เหล็ก เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ คล้ายเทปคลาส ทอมไดร์
คอมพิวเตอร์ : peripheral
Peripheral ซ อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น อาจจะ input output และstorage device เช่น web-cam, flash device เป็นต้น
Netwoeking : ระบบที่ใช้ประกอบการสื่อสารเพื่อการติดต่อกับคอมพิวเตอร์และทรัพยากร
- local area network
- modem
เรียนคาบต่อไป :
คอมพิวเตอร์ : ประเภท
วิชา คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว JR 301
วันศุกร์ ที่ 24 มิถุนายน คาบที่ 4
คอมพิวเตอร์ : ประเภท
คอมพิวเตอร์สาวนบุคคล (personal computer)
โน๊ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ notebook computer
คอมพิวเตอร์พกพา
Midrange
Mainframes
Supercomputer (ความรู้รอบตัวจีนผลิตเครื่องความเร็วที่สุดที่ผ่านมา)
คอมพิวเตอร์สาวนบุคคล (personal computer)
(ภาพ)
บางครั้งอาจเรียกที่มีชื่อแตกต่างกัน เช่น Desktop computer , PCs, microcomputer หรือ home computer
แบ่งได้ 4 ประเภท (เรียงตามคุณภาพของเครื่องคอม)
Low-end computer
Fully-powered personal computer (ปัจจุบันมีถึง Co 4 แล้ว)
Workstations = ส่วนมากใช้ในงาน สถาปัตยกรรม 3D, งาน animation คอมพิวเตอร์ต่อพ่วงหลายๆตัว
Network computer หรือ thin client เอาไปต่อกับเครื่อง ไม่มี harddisk (ปัจจุบันไม่มีแล้ว
โน๊ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ notebook computer
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา
ความสามารถเหมือรกับ Desktop computer
มี CPU และ หน่วยความจำเหมือนกัน
มี harddisk และ disk-drive หรือ CD-
คอมพิวเตอร์ : handheld computer
personal digital assistant(PDA)
เก็บตารางนัดหมาย,รายชื่อ เป็นต้น
รับข้อมูลเข้าด้วย stylus บนจอ touch screen(ไม่มีแล้ว)
pocket pc
มีความสามารถเหมือน PDA โดยเพิ่มความสามรถในการรันโปรแกรมย่อขนาดลงอย่างเช่น word excel ( ตัวอย่าง ของ ร้าน mK
คอมพิวเตอร์: Handheld computer
tablet computer : คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีฟังชั่นการสัมผัสในการสั่งงานได้
คอมพิวเตอร์ : midrange computers
ถูกออกแบบสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลายๆคนเพื่อรองรับความต้องการสำหรับองค์กรขนาดกลางที่ต้องใช้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานสูง
มีผู้ใช้หลักร้อย หรือหลักพัน เข้ามาติดต่อ
ใช้สำหรับดูแลสินค้าคงคลัง การสั่งซื้อสินค้าและระบบงานอื่นที่ใช้ในบริษัท
คอมพิวเตอร์ : mainframes ( เช่น พวกธนาคาร ภาครัฐ เช่นสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบบจองตั๋วเครื่องบิน ระบบส่งจดหมายตามบ้าน(บิลค่าไฟ น้ำ โทรศัพท์) E-mail servers
คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่และมีความสามารถสูง
ความสามารถประมวลผลคำสั่งได้เป็นพันล้านคำสั่งต่อวินาที
สามรถจัดการเก็บข้อมูลได้หลายพันล้านตัวอักษร
คอมพิวเตอร์ : Supercomputers
สามารถประมวลผลคำสั่งได้เป็นล้านๆคำสั่งต่อวินาที
ถูกใช้สำหรับงานที่มีความซับซ้อนสูง ที่ต้องการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก
เช่น การพยากรณอากาศ งานวิจัยด้านอาวุธ งาน super effects
คาบหน้าเรียนเรื่องอินเตอร์เน็ต การสืบค้นและการทำงานรายงานข่าวทางอินเตอร์เน็ต
วิชา 301 คอมพิวเตอร์เพื่อการายงานข่าว
วันที่ 1 กรกฎาคม 2554
ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์(Software computer)
คือ ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่เป็นลำดับขั้นตอนที่ใช้สั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานและควบคุมการทำงานของส่วนประกอบต่างๆของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
ประเภทซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
- โปรแกรมที่สั่งการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่นระบบปฏิบัติการ windows
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application software)
- ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานด้านต่างๆ ตามความต้องการ
ระบบปฏิบัติการ (Operation system)
- โปรแกรมที่ทำหน้าที่ควบคุมและจัดการเกี่ยวกับการปฏิบัติการพื้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ประยุกต์ในการรับส่งปละจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดแวร์
หน้าที่
- บูด (booting)
- จัดการซีพียู (cpu management)
- จัดการแฟ้มข้อมูล file management
- จัดการงาน (task management)
- ฟอร์แมต (formatting)
ประเภทของ OS
- DOS : disk operating System :
1975 บิล เกตส์ พอล อัลเลน ก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ และได้นำเอาภาษาเบสิกที่พัฒนาขึ้นเองออกมาวางตลาด และให้ชื่อว่า ไมโครซอฟท์เบสิก ภาษาคอมพิวเตอร์นี้ได้กลายเป็นพื้นฐานให้แก่ธุรกิจลิขสิทธิ์ของซอฟท์แวร์ ซึ่งถูกผนวก(มักใช้ในรูปแบบของรอม) เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ในบ้านและเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลส่วนใหญ่ในช่วง คริสต์ทศวรรษที่ 70 และ 80
1976 บิล เกตส์ ได้เขียนจดหมายเปิดผลึกถึงผู้นิยมงานอดิเรกซึ่งสร้างความโกรธเคืองแก่ผู้นิยมเล่นคอมพิวเตอร์เป็นงานอย่างมาก โดยเขาประกาศว่าธุรกิจคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์มีตัวตนในตลาดการค้า และยังบอกว่าไม่ควรทำสำเนาซอฟต์แวร์แจกจ่ายกันโดยไม่ได้รับอนุญาตเจ้าของ
วินโดวส์ windows :
- เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟท์
- เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ.1985) และครองความเป็นที่นิยมในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของการใช้งานทั่วโลก (แรกผลิตมาจากไต้หวัน)
ยูนิกซ์ Unix
- เป็นระบบ)ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แบหลายงาน หลายผู้ใช้ ที่เริ่มพัฒนาโดยกลุ่มพนักงานของห้องปฏิบัติการ ATT and T (ปัจจุบันไม่มีแล้ว)
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ จะใช้งานวิศวกร..งานสำนักงานที่ใช้พร้อมกันเยอะๆ
ไม่มีปัญหา ไวรัส และ แฮกเกอร์ข้อมูล
แมคโอเอส Mac Os
- ระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์แมคอินทอชโดยทั้งคู่เป็นผลิตภัณฑ์ บริษัท แอปเปิล
- แมคโอแอลเป็นระบบปฏิบัติการที่มีส่วนต่อประสานงานกับผู้ใช้แบบกราฟฟิค(GUI)ที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์
- แรกสุดแมคโอเอส ถูกเรียก ซิเต็ม system และเปลี่ยนมาใช้คำว่าแมคโอเอส ครั้งแรกในแมคโอเอส ครั้งแรกในแมคโอเอส 7.6 (ค.ศ.1996) เนื่องจากเครื่องแมคเลียนแบบที่แพร่หลายในยุคนั้น ทำให้แอบเปิลต้องการแสดงว่าแมคยังเป็นลิขสิทธิ์ของตนอยู่ (สังเกตว่า แมค ไม่มีเครื่องประกอบเพราะต้องการรักษาลิขสิทธิ์ของตนเองอยู่)
โปรแกรมอรรถประโยชน์
Program
- โปรแกรมที่ทำหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมและขยายหน้าที่หรือการบริการศึกษาที่นอกเนื่องจากการใช้บริการของระบบปฏิบัติการ
o สำรองข้อมูล data backup
o กู้ข้อมูล data Recover
o ป้องกันไวรัส virus protection
o บีบอัดข้อมูล
o จัดระเบียบข้อมูล ฯลฯ
เทคโนโลยี
โทรคมนาคม
- พัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ด้านการสื่อสารทางไกล
- โทรเลข
- โทรศัพท์
- สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ( international telecommunication union) ให้ความหมายโทรคมนาคมขึ้นมา
- โทรคมนาคม หมายถึง การส่งสัญญาณเสียง ภาพ ผ่านสื่อสัญญาณทางสายหรือไร้สายด้วยระบบแม่เหล็กไฟฟ้า อาจเป็นไฟฟ้า แลงหรือวิธีอื่นๆ
องค์ประกอบพื้นฐานคมนาคม
- ผู้ส่ง
- สารสนเทศ
- เครื่องส่ง
- สื่อสัญญาณ
- เครื่องรับ
สัญญาณไฟฟ้าโทรคมนาคม
- เครื่องรับสัญญาณ มันจะทำหน้าที่แปลงสภาพสารสนเทศเป็นสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
o ลักษณะคลื่นต่อเนื่อง
การเปลี่ยนแปลงตามแบบค่อยเป็นค่อยไปเรียก อนาล็อก
o ลักษณะคลื่นไม่ต่อเนื่อง
เป็นภาวะไฟฟ้าที่มีสัญญาณไฟฟ้าและไม่มีไฟฟ้า สัญญาณไฟฟ้าเรียด ระบบสองสภาวะ binary system หรือสัญญาณดิจิตอล
- การบรรจบกันทางดิจิตอล
- เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมายถึง เทคโนโลยีที่มนุษย์ใช้ในการรับส่งประมวลผล เก็บรักษา ผลิตและเข้าถึงสารสนเทศ อาจเป็นเสียง อักขระ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวผ่านสื่อทั้งทางระบบสายและไร้สาย
- โทรศัพท์ประจำที่
- โทรศัพท์เคลื่อนที่
สรุปการสื่อสารข้อมูล
- การรับส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์กับเทอมินัล ระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ หรือระหว่างอุปกรณ์โทรคมนาคมกับอุปกรณ์โทรคมนาคม เช่น โทรสาร โมเด็ม
องค์ประกอบดาต้าเทอร์มินัล (Data terminal Equipment)
เป็นอุปกรณ์ต้นทางและปลายทางที่นำหน้าที่ส่งข้อมูล
- เมอร์มินัลที่สมรรถนะต่ำเรียกว่า ดัมป์เทอร์มินัล
- เทอร์มินัลที่สรรมรรถนะสูง เรียกว่า คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว คาบที่ 6
8 มิถุนายน 2554
- องค์ประกอบดาต้าเทอร์มินัล (Data terminal Equipment)
เป็นอุปกรณ์ต้นทางและปลายทางที่นำหน้าที่ส่งข้อมูล
- เมอร์มินัลที่สมรรถนะต่ำเรียกว่า ดัมป์เทอร์มินัล
(จะไม่มีที่เสียบไดรฟ์เลย)
- เทอร์มินัลที่สรรมรรถนะสูง เรียกว่า คอมพิวเตอร์
- อุปกรณ์ดาต้าคอมมิวนิเคชั่น
- ทำหน้าที่เป็นตัวประสานงานระหว่างอุปกรณ์ดาต้าเทอร์มินัลกับระบบสื่อสัญญาณ
o ทำหน้าที่แปลสัญญาณ
o
- สื่อสัญญาณ ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ดาต้าคอมมิวนิเคชั่น ต้นทางและปลายทาง
- ปัจจัยกำหนดความเร็วการรับ—ส่งข้อมูล
- อุปกรณ์ควบคุมการรับส่งข้อมูล
o อุปกรณ์ดาคาต้าเทอร์มินัล เช่น คอมพิวเตอร์
o อุปกรณ์ดาต้าคอมมิวนิเคชั่น เช่นโมเด็ม
- ระบบสื่อสัญญาณ ทำหน้าที่เป็นตัวนำข้อมูลจากต้นทางไปถึงปลายทาง
- ปริมาณข้อมูล ที่รับ-ส่ง
- เทคโนโลยรการสื่อสาร
- การสื่อสารข้อมูลทางสาย
- เทคโนโลยีโมเด็ม
มาจากคำว่า โมดูเลเตอร์ moduralator แปลว่า การแปลง
หมายถึงการแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นสัญญาณดิจิตอล
- เทคโนโลยีดีแอสแอล (digital subscriber line)
เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ข้อมูลความเร็วสูงสามารถเดินทางมายังบ้านหรือสำนักงานได้ ผ่านคู่สายโทรศัพท์ธรรมดาที่ทำด้วยทองแดง
- เทคโนโลยี ไอเอสดีเอ็น intergrated
o เป็นมาตาฐานของไอทียูที่กำหนดมาตรฐานสำหรับการรับ-ส่งข้อมูล ส่งสัญญาณผ่านทางสายโทรศัพท์หรือสัญญาณอื่นๆ
- เทคโนโลยีเคเบิ้ลโมเด็ม (cable modem)
o เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของการใช้บริการโทรทัศน์ตามสายเคเบิ้ลทีวี
- คู่สายเช่า – วงจรเช่า (teased line)
o สายโทรศัพท์หรือวงจรที่ให้เช่าสำหรับการใช้ส่วนบุคคลมีความเร็วต่ำจนถึงความเร็วสูง 140 กิกะบิตต่อวินาที (เป็นเทคโนโลยีแรกๆที่นำมาใช้ ปัจจุบันไม่ใช้แล้ว สังเกต แบงค์สมัยก่อนไม่เปิดสาขามาก...ปัจจุบันใช้เทคโนโลยี ดีเอสแอล ตู้ ATM มีทุกที่)
- การสื่อสารไร้สาย (เรียนไปแล้ว
- โทรศัพท์เคลื่อนที่
o เทคโนโลยีจีเอสเอ็ม (global system for mobile : GSM) เจ้าแรก อิเลคสัน
มีความเร็วไม่เกิน 9600 บิตต่อนาที
o เทคโนโลยีจีพีอาร์เอส
o เทคโนโลยีเอ็ดจ ให้ความเร็ว 32 กิโลบิตต่อนาที(ยุโรป)
o เทคโนโลยี ซีดีเอ็มเอ (ฝั่งอเมริกา)
- ระบบไมโครเวฟ (การสื่อสารแห่งประเทศไทยลงทุน ตอนนี้ คือป้องกันเครือข่ายเสีย)
- เทคโนโลยีดาเทียม ระบบดีบีเอส
o เป็นบริการแพร่สัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมด้วยความถี่สูงผ่านไมโครเวฟให้แก่สมาชิกโดยตรง ผู้รับจะต้องเป็นผู้ที่อุปกรณ์ถอดรหัสที่ซื้อมาจากบริษัทผู้ให้บริการ
- เทคโนยีคลื่นแสง
o ใช้แสงอินฟราเรดเป็นตัวกลางในการสื่อสาร เช่น ระบบ wireless lan ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายติดตั้ง
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์
o เครือข่าย หมายถึงจุดต่อหลายๆ จุดมาเชื่อมต่อกันเป็นเส้นทางคมนาคม
o คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลสารสนเทศด้วยคำสั่งหรือโปรแกรม
o หมายถึง กลุ่มของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่นำมาต่อเชื่อมกัน ตั้งแต่ 2 เครื่องไปเพื่อแบ่งปันการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น เครื่องพิมพ์ ไฟล์ข้อมูล และแลกเปลี่ยนข้อมูล
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์ระยะใกล้ local area network
o เครือข่ายที่เชื่อมต่อขนาดเล็กในพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก เช่น ภายในห้อง สำนักงาน หรือภายในอาคาร
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์ระยะไกล wide area network
o เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่กว่า man เช่น การเชื่อต่อระดับจังหวัดกับจังหวัดหรือระหว่างประเทศ
- เครือข่าย metropolitan wide area network
o เป็นเครือข่ายเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่กว่า lan เช่นการเชื่อมต่อระหว่างองค์กรในอำเภอหรือจังหวัด...
ประโยชน์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (เคยพูดไปแล้ว)
- เกิดการใช้ทรัพยากรหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ร่วมกัน
- มีกา
วิชา 301 คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว (คาบที่7)
วันที่ 23 กรกฎาคม 2554
วันนี้พูดถึงอินเตอร์เน็ต เครื่องมือการใช้งานทางอินเตอร์เน็ต เช่น ทวิเตอร์ เฟชบุ๊ค
อาจารย์แนะนำโปรแกรมฝากรูป/และตัดต่อแบบง่าย โปรแกรม picaza
อินเตอร์เน็ต คืออะไร
จุดเร็วตนของอินเตอร์เน็ต เป็นเรื่องความมั่นคงทางด้านความปลอดภัย และการทหาร
- อินเตอร์เน็ต มาจากคำว่า inter connection next work
- เป็นเรื่องของเครือข่ายที่ต่อกันเยอะๆ เชื่อมโยงกัน โดยมีการวางเป็นระบบ
- ลักษณะเครือข่าย เป็นลักษณะเครือข่ายใยแมงมุม เชื่อมต่อกันที่ครอบคลุมทั่วโลก สื่อสารกันได้หลายเส้นทางโดยไม่มีกำหนดตายตัว และไม่จำเป็นต้องไปตามเส้นทางโดยตรง อาจผ่านจุดอื่นหรือเลือกไปเส้นทางอื่นได้หลายเส้นทาง
- คอมพิวเตอร์เกิดช่วงสงครามเย็น เรื่องการทหาร และความเป็นไปได้ที่จะถูกโจมตีอาวุธ ปรมาณูหรือนิวเคลียร์
- เกิดโครงการพาเน็ต สังกัดกระทรวงกลาโหม
- จัดตั้งหน่วยวิจัยขั้นสูงของอเมริกา (appa) ตั้งมา จะทำอย่างไรให้คอมพิวเตอร์ทำให้เกิดเชื่อมโยงและส่งข้อมูลอัตโนมัติ (ในกรณีเครือถูกทำลายหรือเกิดความเสียหาย หรือข่ายที่เหลือทำงานได้ คือ มีเครื่องสำรองทำงานแทน)
- จดเริ่มต้นทำระบบในมหาวิทยาลัยก่อน ปัญหาต่อนั้น คือคอมทุกตัวต้องทำงานของระบบร่วมกันทั้งหมดหากตัวใดตัวหนึ่งหยุดทำงานลงไป ตัวอื่นก็ทำงานไม่ได้
- เริ่มสร้างตัวมาตรฐานกลางโปรโตคอล สื่อสารขึ้นเป็นแบบเดียวทั่งหมดและทำให้เครื่องข่ายเติบโตและขยายอย่างรวดเร็ว 1983 คอมพิวเตอร์ทุกตัวภายใน arpa net ใช้มาตรฐานเดียวกัน คือ tcp/ip
- เอกชนอยากใช้ ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ แยกเป็น 2 เน็ตเวิร์ก คือ milinet และarpa net
- เกิดหน่วยงาน nsf `
- เกิดหน่วยงาน commercial internet exchange (cix) ทางพาณิชย์ขึ้น เชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่น
- แนวคิดอินเตอร์เน็ตพัฒนาจาก NCP (network control protocol) และ TCP/IP ล่าสุดเรียก เป็น IP
- พัฒนาการใหม่มาทดแทน เช่น แพกเกจสวิตชิ่ง เหมือนขนส่งจรวดขนาดใหญ่ แต่ถอดข้อมูลเส่งเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ระบุต้นทาง ปลายทาง ตำแหน่ง เพื่อสะดวกในการประกอบข้อมูลกลับคืน และส่งได้รวดเร็ว (คล้ายๆส่งจดหมาย) การดาว์นโหลด การส่งเมลล์
- ระบบเครือข่ายมีขนาดใหญ่ จึงมีการจัดระบบคลาส และใช้ระบบหมายเลขไอพี แทนเครื่องคอมพิวเตอร์
- ระบบไอพีตัวเลขไม่พอ จึงเกิดระบบ โดเมนเนม โดย พอล มอคคา เพทริส www
- จากการพัฒนาขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดระบบพัฒนา เราเตอร์ โดยเป็นการแยกย่อย ไอพีคอมพิวเตอร์ ภายในระบบ
- เกิดระบบ อีเมล์ www แชท
คราวหน้า..เครื่องมือทางอินเตอร์เน็ต
คอมพิวเตอร์เพื่อการายงานข่าว
วิชา คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว คาบที่ 8
วันที่ 29 กรกฎาคม 2554
การทำงานของ TCP/IP
- Transnsmision control protocol
- TCP มีหน้าที่ตรวจสอบรับส่งข้อมูล ระหว่างคอมพิวเตอร์ ฝ่ายรับและส่งให้ได้รับข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน หากมีบางส่วนของข้อมูล ที่สูญหายไประหว่างทาง ก็จะแจ้งกลับไปให้ต้นทาง ส่งข้อมูลเฉพาะส่วนที่บกพร่องกลับมาใหม่
- Internet protocol
- Ip มีหน้าที่เลือกเส้นทางที่ใช้ รับ- ส่ง ข้อมูล และตรวจทานที่อยู่ของผู้รับ (ip address)
- หมายเลย ไอพี จะเป็นหมายเลขจุดหนึ่งที่มีขนาด 32 บิต หมายเลขชุดนี้ที่จะถูกแบ่งเป็นส่วน ส่วนละ 8 บิต เท่าๆกัน ในการอ้างถึงก็จะแปลงเลขนั้นเป็นเลขฐาน 10เพื่อความสะดวกใหผู้ใช้อ้างถึงได้ง่าย ดั้งนั้นตัวเลขในแต่ละส่วนนี้จะมีค่าตั้งแต่ 0-255 เท่านั้น เช่น 19.10.1.101 เป็นต้น
Domain name system
- การแทนหมายเลขไอพีด้วยชื่อคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการนั้น เรียนว่า ระบบโดเมน หรือดีเอ็นเอส
- การจัดชื่อและหมายเลข ไอพีที่ลงในฐานข้อมูลแบบลำดับขั้นในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่พิเศษเรียนว่าเซิร์ฟเวอร์ชื่อโดเมน
-
com กลุ่มธุรกิจการค้า
edu สถาบันการศึกษา
gov หน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่หน่วยงาน
mil หน่วยงานทหาร
net หน่วยงานกับเครือข่าย
org หน่วยงานไม่หวังผลกำไร
อินเตอร์เน็ตทำงานอย่างไร
เริ่มต้น สมัยก่อน เครือข่ายคอมพิวเตอร์ในมหาวิทยาลัย เรียกว่า เครือข่ายไทยสาร โดยมีจุฬาฯ เป็นแม่ข่าย
เครือมือบนอินเตอร์เน็ต
เครือมือมีมากมาย สำหรับการทำรายงานข่าวมีหลากหลาย
ถ้าแบ่งตามกลุ่ม ได้ดังนี้
1. บริการค้นหาข้อมูล
2. บริการโอนถ่ายข้อมูล
3. บริการมัลติมีเดีย
4. บริการด้านการติดต่อสื่อสาร
5. บริการรับส่งข่าวสารและแสดงความเห็น
- อินเตอร์เน็ตเป็นระบบขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมกว้างขว้างทั่วโลก โดยมีแฟ้มข้อมูลต่างๆมากมายหลายพันแฟ้มบรรจุอยู่ในระบบเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสืบค้นข้อมูลได้
พัฒนาการสื่อค้นข้อมูล
- อาร์ดี
- เป็นโปรแกรมที่ช่วยค้นแฟ้มที่ทราบชื่อแต่ไม่ทราบว่าแฟ้มนั้นอยู่ในเครื่องบริการได้ในอินเตอร์เน็ต
- โปรกรมจะสร้างบัตรรายการแฟ้มไว้ในฐานข้อมูลเมื่อต้นการค้นว่าแฟ้มนั้นอยู่ในเครื่องบริการใด ก็เพื่อเรียกใช้ อาร์ดีแล้วพิมพ์ชื่อแฟ้มข้อมูลนั้นที่ต้องการนั้นลงไป อาร์ดีจะตรวจสอบ
- โกเฟอร์
- Veronica เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ช่วย
- เวส
- สารานุกรม
- Bbs ระบบข่าวสารที่ผู้ใช้บริการในสังคมอินเตอร์เน็ตมีหลายระบบ เช่น ยูเน็ตนิวส์ ระบบสมาชิกแจ้งข่าวหลายสมาชิก บอกสมาชิก และให้ข่าวสารที่สม่ำเสมอกับสมาชิก โดยมีข้อปฎิบัติที่สำคัญในการใช้งานร่วมกัน สมัยก่อน คอมช้าข้อปฎิบัติ จึงเน้นให้ สั้น กระชับ ภาษาที่สุภาพ ควรมีหัวข้อเดียวต่อเรื่องฯลฯ
- Search engines เป็นเครื่องมือช่วยค้นหารข้อมูลในระบบอินเตอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เช่น google
คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว คาบที่ 9
วันที่ 9 กันยายน 2554
การเขียนเรื่องถ้าลอยๆ ไม่มีน้ำหนักพอ โดยเฉพาะงานเขียนบทความ หรือ ข่าวเชิงเศรษฐกิจ คือต้องมีข้อมูลไม่อย่างนั้นข้อมูลจะลอยๆ ไม่มีเหตุผล
คราวหน้า พรบ. คอมพิวเตอร์มีผลอย่างไรของการทำข่าว
เราต้องบอกที่มา
1. เขียนข่าวได้ดีขึ้น
2. ระมัดระวังมากขึ้น
เราต้องแตกประเด็น เช่น พรบ.เขียนข้อมูลต่างๆ ในกฎหมายมีการระบุให้ผู้ประกอบการณ์ด้านอินเตอร์เน็ตต้องเก็บข้อมูลเอาไว้ ทุกครั้งเป็นเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี อย่างกรณีเราค้นข่าว เราก็จะเจอข้อมูล ในการค้นภายในกำหนด
เหตุผล เช่นการอภิปราย
การวิเคราะห์ข้อมูล
การหาข้อมูลเพื่อการเขียนข่าว
1. โปรแกรมสเปรดชีต คือ
- โปรแกรมประเภทสเปรดชีต (spreadsheet) หรือตารางคำนวณ อิเล็กทรอนิกส์เป็นโปรแกรมที่ใช้เก็บข้อมูลในลักษณะต่างๆ ส่วนใหญ่นิยมเก็บ ข้อมูลตัวเลข ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณเพื่อใช้วิเคราะห์
- แผ่นตารางทำการ หรือ สเปรดชีต (อังกฤษ: spreadsheet) เป็นลักษณะข้อมูลที่มีการจัดเรียงในลักษณะตารางสี่เหลี่ยม ที่ใช้ในการคำนวณเป็นหลักและบางครั้งใช้ในการเก็บข้อมูล บางคนเรียกโปรแกรมนี้ว่า กระดาษทดเลขอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากตัวโปรแกรมจะมีความสามารถในการคำนวณทางคณิตศาสตร์มาก โปรแกรมประเภทนี้รุ่นแรกๆ มีชื่อว่า วิสิแคล (VisiCalc) ต่อมาก็มีการพัฒนาให้ดีขึ้นมาเป็น ซุปเปอร์แคล (SuperCalc) ต่อมาได้มีการพัฒนาจนเป็นที่นิยมแพร่หลายมากคือ โลตัส 1-2-3 จนไมโครซอฟเห็นถึงความสามารถของโปรแกรมประเภทนี้จึงพัฒนาของตนเองขึ้นเป็น ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล
โปรแกรมประเภทนี้จะมีการแบ่งเป็นช่องๆ เรียกว่า "เซล"(cell) โดยจะมีการระบุตำแหน่งของเซลเป็นแนวแถว ตั้ง(column) และแถวนอน (row)คือจะเรียกแถวตั้งเป็นตัวอักษร และแถวนอนเป็นตัวเลข เช่น A1 หมายถึงแถวตั้งที่ 1 และแถวนอนที่ 1 สำหรับไมโครซอฟท์ เอ็กเซลได้เพิ่มการเรียกให้ง่ายขึ้นโดยใช้เป็น R1C1 ได้ด้วย
โปรแกรมประเภทนี้ในยุคแรกๆ เมื่อต้องการใช้ฟังก์ชันเช่น File-> save ต้องมีการกดข้อความเข้าไปตามที่ต้องการ แต่พอมาเป็นโลตัส ก็สามารถกดตัวแทนได้เป็น F แทนคำว่า File และ S แทนคำว่า Save ในยุคของไมโครซอฟท์ เอ็กเซลโปรแกรมได้มีการพัฒนาอย่างมาก สามารถใช้คำนวณสูตรยากๆ ทางคณิตศาสตร์ สถิติ สร้างกราฟต่างๆ ใช้กับฐานข้อมูล (Database) เปิดไฟล์ข้อมูลประเภทต่างๆที่ไม่ใช่ .xls หรือแทรกรูปภาพบนตารางได้ สำหรับรายการที่เยี่ยมมากที่ไมโครซอฟเอ็กเซลมีก็คือ ไพว็อทเทเบิ้ล (Pivot Table)
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3
- การพัฒนาโปรแกรมจึงพัฒนาเป็น เอ็กซ์เซล
- ลักษณะของ เอ็กซเซล มีส่วนสำคัญ 2 อย่าง คือ แถว และคอลัมน์
- ส่วนมากใช้ในงานข่าวทางธุรกิจ การนำเสนอกราฟ เช่น กราฟวงกลม
- กราฟแนวตั้ง หรือข้อมูลเปรียบเทียบให้เห็นความต่าง
- กราฟเส้น ที่แสดงค่าข้อมูลและเห็นแนวโน้ม
- การจัดเก็บข้อมูล ที่เป็นตัวเลข เช่น ยอดสรุปรวม อัตราส่วน หรือทางสถิติ
- ฐานข้อมูลในรูปแบบรายการข้อมูล
- ข้อมูลแถว อธิบายบอกรายละเอียด
- ข้อมูลแต่ละคอลัมน์ในสิสต์เรียกว่า ฟีลด์ หมายถึงข้อมูลแต่ละเรื่อง
- การใช้ในงานข่าว
- 1. การจัดเก็บข้อมูล
- 2. วิเคราะห์ข้อมูล
- 3. วิเคราะห์ข้อมูลด้วยกราฟ
พรบ.ข่าวสารข้อมูล และ พรบ.คอมพิวเตอร์
ข่าวสารฯ เป็นเรื่องการเข้าถึงข้อมูล เราจะเข้าถึงอย่างไร เขาออกมาเพื่อ เข้าถึงข้อมูลราชการโดยเฉพาะ เป็นเรื่องเสรีภาพ ทุกคนมีเสรีภาพ รวมถึงสื่อมวลชน กฎหมายกำหนดเสรีภาพสื่อมวลชน
แนวคิดเรื่องเสรีภาพในไทย 2475 ถึง รธน.16 ฉบับ
รธน.2540 เน้นหลักการเสรีนิยม ทั้งการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางสังคม เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด ให้สิทธิเสรีภาพมากที่สุด โดยเฉพาะการสื่อสารมวลชน จน เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ใน รธน. ม. 39 40
สิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน
- คุ้มครองเสรีภาพของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน
- สิทธิรับข้อมูลข่าวสารสารสาธารณะ
- สิทธิจะรับข้อมูล คำชี้แจง และเหตุผลจากรัฐ ก่อนเริ่มโครงการ
- ขอบข่ายงานสารสนเทศที่ทั่วถึงและเท่าเทียม
คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว คาบที่ 10
วันที่ 16 กันยายน 2554
พรบ.ข้อมูลข่าวสาร
ความเป็นมา
- แนวความคิดของกลุ่มที่ปรึกษา พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ (2532-34) เกิด โครงการของรัฐประชาชนไม่รู้ รู้เฉพาะในวงราชการเท่านั้น เกิดกว้านซื้อที่ดิน เพื่อเกร็งกำไร ตอนเกิด พฤษฎาทมิษ เราน่าจะให้ข้อมูลข่าวสารประชาชนรู้ด้วย
- ความสอดคล้องกับแนวคิดเรื่อง “ความโปร่งใส” ของนายอานันท์ ปัญยารชุน (2534-2535) หลังจากยุบ พล.อ.สุจินดา เป็นร่างเดินเรื่องเกี่ยวกับ พรบ. ฉบับนี้ และประกาศก่อนใช้ รธน.2540
- ประกาศในราชกิจนุเบกษา 10 ก.ย.
แนวคิด พรบ. นี้
- เปิดเผยเป็น “หลัก” ปกปิดเป็น “ข้อยกเว้น” เช่น ความมั่นคงของประเทศ เชื้อพระวงศ์
- เปิดโอกาสให้ประชาชนมีโอกาสรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานต่างๆของรัฐ
- รับรองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการ (โดยเกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนด้วย เราเป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน)
หน่วยงานรัฐที่อยู่ภายใต้กฎหมายสามารถดูข้อมูลได้
- ราชการล่วนกลาง –ภูมิภาค – ท้องถิ่น – รัฐวิสาหกิจ – หน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อรัฐสภา – ศาล (คดีที่อยู่ระหว่างอยู่ในระหว่างพิพากษา) – องค์กรวิชาชีพ เช่น สภาทนายความ แพทยสภาฯ ฯลฯ – องค์กรอิสระของรัฐ
ประเภทข้อมูลที่เปิดเผยได้
- ข้อมูลข่าวสารที่ตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา (ม.7) คือการมีผลทางกฎหมาย หรือ จะมีผลทางฏกหมายเมื่อไหร่ เพื่อให้คนมาคัดค้าน
- ข้อมูลข่าวสารที่ต้องจัดไว้เพื่อประชาชนเข้ามาตรวจดูได้ด้วยตนเอง (ม.9) ส่วนมากตามเว็บไซต์ ต้องเอาข้อมูลขึ้นมาลงบนเว็บ
- ข้อมูลที่เปิดเผยตามที่เราขอไปมีคำขอเฉพาะราย คือ เราอยากดูข้อมูลของเรา เช่นขอดูกระดาษคำตอบ ที่เราสอบ แต่ดูได้เฉพาะราย
- ข้อมูลข่าวสารที่เป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ โดยหอจดหมายเหตุแห่งชาติ (ม.26)
ข้อมูลของรัฐที่อาจปฎิเสธได้
- ส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
- ก่อความเสียหายแก่ความมั่นคงของประเทศ
- ทำให้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ
- ความเห็นหรือข้อเสนอแนะเป็นการภายในของหน่วยงาน (ถือว่าเป็นความคิดหรือคำสั่ง เช่น ให้รีบดำเนินการโดยด่วน คำสั่งลับสุดยอด)
- ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต หรือความปลอดภัยของบุคคล (ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น เป็นเอดส์)
-
ขั้นตอนการเข้าถึงข้อมูล
- ดูจากราชกิจจานุเบกษา
- ตรวจสอบจากข้อมูลที่หน่วยงานเขาจัดแสดงไว้ เช่น บอร์ด หรือเว็บไซต์
- เขียนข้อมูลขอจากหน่วยงาน เช่น เอกสารเสนอไม่ครบ จะมีแบบให้
- หากถูกปฎิเสธใ ห้ขอทราบหตุผลของการปฎิเสธ ( การส่งข้อมูลข่าวสาร มีไอพีแอสเดรส ต้องเก็บไว้อย่างน้อย 6 เดือน)
- ทำหนังสือร้องเรียน หรืออุทธรณ์ไปยังสำนักงานข้อมูลข่าวสาร (หากไม่เปิดเผยข้อมูล)
- รอผลการพิจารณาของกรรมการวินิจฉัยเปิดเผยข้อมูล
- นำผลวินิจฉัยไปยื่นขอข้อมูล หากยังถูกปฎิเสธ ให้ฟ้องศาลปกครอง
-
ประโยชน์ของ พรบ.ข้อมูลข่าวสาร
- ทำให้หน่วยงานราชการตื่นตัวในการจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร
- เป็นเครื่องมือประชาชนและสื่อมวลชนในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
- ลดปัญหาทุจริตคอรัปชั่น
- ทำให้ประชาชนตระหนักถึง “สิทธิได้รู้”ของตนเอง
ตย. ผู้ปกครองขอเปิดเผยคะแนนสอบ
ต.ย. ญาติวีระชนขอเปิดเผยข้อเท็จจริง ปี 35
ปัญหาอุปสรรค
- หน่วยงานราชการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย (ทัศนคติของข้าราชการ)
- ไม่ยอมปฎิบัติตาม ม.7 9
- ดึงเรื่องไม่อยมปฎิบัตตาม ม. 11 (ในเวลาอันควร)
- ตอบปฎิเสธ ม 15 (โดยไม่สมเหตุผล)
ข้อสอบ มี 6 ข้อ
โดย คนที่ส่งงานส่งงานทำ ข้อ 1- 4 คนไม่ส่งงาน ทำ 1-6 ข้อ
ถ้ามีคนทำ 6 ข้อ นับจากตรงนั้นเลย แม้จะส่งงาน เนื้อหาข้อสอบ คร่าวๆ
๑. เนื้อหา อินเตอร์เน็ต
๒. เรื่องเกี่ยวกับ search engine
๓. excel
๔. อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ เช่น tablet เอาไปทำอะไรได้บ้าง ให้แสดงความคิดเห็น จะเอามาทำข่าวได้อย่างไร
ข้อสอบจะเป็นแนวโอเพ่น
๕ พรบ. ข่าวสารข้อมูล
๖ พรบ. คอมพิวเตอร์
ตย. แนวข้อสอบ ความแตกต่าง ระว่าง yahoo กับ google อย่างไร คือบรรยายลักษณะของมันก่อน ทั้งสองอัน ความแตกต่างอย่างไร ที่เราเขียนมา จัดระเบียบ เช่น yahoo ประเภท ต่างจาก google เช่น เรื่องของ keyword หรือ หน้าตา หรือ ความเร็ว หรือ ลูกเล่น
รวบรวมโดย อาณาจักรโกวิทย์
วันศุกร์ ที่ 17 มิถุนายน คาบที่3
เทคโนโลยี สารสนเทศ (2)
เกริ่นนำเข้าเรื่อง ประเด็นอาจารย์พูดถึง เทคโนโลยีมือถือ ประสิทธิภาพ การรองรับ
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ช่วยรายงานการจัดเก็บข้อมูล บันทึก และประมวลข้อมูลให้รวดเร็ว และถูกต้อง ตัวอย่าง ประวัติคอมพิวเตอร์ ความรู้รอบตัว IBM เพิ่งฉลอง 100 ปี) การทำงาน เช่น ตู้ ATM ธนาคาร จะมี main board ขนาดใหญ่ประมวลข้อมูล
เทคโนโลยีเทคโนคมนาคม
ช่วยส่งผ่านข้อมูลที่ถูกประมวลผลตามสถานีต่างๆ ตัวอย่าง การเปลี่ยนระบบ analogue จะเปลี่ยนเป็นระบบ digital ระบบ คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ที่สามารถใส่โปรแกรม (software) สั่งงานให้รับทราบข้อมูล ประมวลข้อมูล เพื่อให้ได้สารสนเทศ ที่เป็นประโยชน์ และเก็บสารสนเทศนั้นไว้ใช้งาน
ภาษาคอมพิวเตอร์ ใช้ 0 และ 1 เป็นระบบประมวลผล
ประโยชน์คอมพิวเตอร์ทางตรง
ความรวดเร็ว (speed
ความน่าเชื่อถือ reliability
ความสามารถในการจัดเก็บ storage capability
ประโยชน์ทางอ้อม
เพิ่มประสิทธิผล+ประสิทธิภาพ : เร็วขึ้นและดีขึ้น
ช่วยการตัดสินใจ
ลดต้นทุน
การทำงานของคอมพิวเตอร์
(ภาพ)
คอมพิวเตอร์ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1.Hardware
2.Software
1.Hardware
Input devices
Processor
Output devices
Storage
Communication
Input : อุปกรณ์ที่ใช้เครื่องมือสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลและนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยแปลงให้เป็นสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่คอมพิวเตอร์เข้าใจและเหมาะสมกับการประมวลผล
Input Devices :
อุปกรณ์นำเข้าจึงเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลทั้งตัวเลข ภาพ เสียง และสัญลักษณ์ต่างๆ แล้วแปลงเป็นสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้
Input โดยตรง
อุปกรณ์ที่รับข้อมูลจากผู้ใช้โดยตรงและเห็นผลจากการทำงานที่ได้ทันทีจากหน้าจอ
คีย์บอร์ด
เมาส์
ปากกาแสง
จอสัมผัส
ไมโครโฟน
Input : จากสื่อบันทึกข้อมูล
เครื่องอ่านรหัสแท่ง
เครื่องกราดภาพหรือสแกนเนอร์
เครื่องอ่านซีดี
กล้องดิจิตอล
คอมพิวเตอร์ : Processor + memory
Processor
- เป็นตัวที่ใช้ประมวลผล บางครั้งเรียก central Processing unit (cpu)
เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมในคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ทำหน้าที่ในการแปลและทำงานตามคำสั่งโปรแกรม
สื่อสารกับ input และ storage devices
แปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
memory
RAM : ใช้ในการเก็บข้อมูลชั่วคราว หลังจากที่ถูกดึงข้อมูลจาก input device ก่อนที่ข้อมูลจะถูกประมวลผลและหลังจากที่ประมวลผลและก่อนที่จะปล่อยไปยัง input device
ข้อมูลในหน่วยความจำหาย ถ้าไม่มีไฟฟ้า หรือโปรแกรมถูกปิด
คอมพิวเตอร์ : output
Output : ผลลัพธ์จากการประมวลผลโดย CPU รูปแบบทั่วไปของ output เช่น ข้อความ ตัวเลข รูปภาพ เสียง
Screen (monitor) สามารถแสดงข้อความ ตัวเลข รูปภาพ หรือแม้แต่ วิดีโอ ในแบบสี
Printer สร้างรายงานที่ถูกพิมพ์ตามที่โปรแกรมสั่ง
คอมพิวเตอร์ : storage
Storage : การเก็บข้อมูลแบบถาวร แยกต่างจากหน่วยความจำ
จานแม่เหล็ก
จานแสง เช่น ดีวีดี ซีดี
เทปแม่เหล็ก เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ คล้ายเทปคลาส ทอมไดร์
คอมพิวเตอร์ : peripheral
Peripheral ซ อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น อาจจะ input output และstorage device เช่น web-cam, flash device เป็นต้น
Netwoeking : ระบบที่ใช้ประกอบการสื่อสารเพื่อการติดต่อกับคอมพิวเตอร์และทรัพยากร
- local area network
- modem
เรียนคาบต่อไป :
คอมพิวเตอร์ : ประเภท
วิชา คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว JR 301
วันศุกร์ ที่ 24 มิถุนายน คาบที่ 4
คอมพิวเตอร์ : ประเภท
คอมพิวเตอร์สาวนบุคคล (personal computer)
โน๊ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ notebook computer
คอมพิวเตอร์พกพา
Midrange
Mainframes
Supercomputer (ความรู้รอบตัวจีนผลิตเครื่องความเร็วที่สุดที่ผ่านมา)
คอมพิวเตอร์สาวนบุคคล (personal computer)
(ภาพ)
บางครั้งอาจเรียกที่มีชื่อแตกต่างกัน เช่น Desktop computer , PCs, microcomputer หรือ home computer
แบ่งได้ 4 ประเภท (เรียงตามคุณภาพของเครื่องคอม)
Low-end computer
Fully-powered personal computer (ปัจจุบันมีถึง Co 4 แล้ว)
Workstations = ส่วนมากใช้ในงาน สถาปัตยกรรม 3D, งาน animation คอมพิวเตอร์ต่อพ่วงหลายๆตัว
Network computer หรือ thin client เอาไปต่อกับเครื่อง ไม่มี harddisk (ปัจจุบันไม่มีแล้ว
โน๊ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ notebook computer
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา
ความสามารถเหมือรกับ Desktop computer
มี CPU และ หน่วยความจำเหมือนกัน
มี harddisk และ disk-drive หรือ CD-
คอมพิวเตอร์ : handheld computer
personal digital assistant(PDA)
เก็บตารางนัดหมาย,รายชื่อ เป็นต้น
รับข้อมูลเข้าด้วย stylus บนจอ touch screen(ไม่มีแล้ว)
pocket pc
มีความสามารถเหมือน PDA โดยเพิ่มความสามรถในการรันโปรแกรมย่อขนาดลงอย่างเช่น word excel ( ตัวอย่าง ของ ร้าน mK
คอมพิวเตอร์: Handheld computer
tablet computer : คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีฟังชั่นการสัมผัสในการสั่งงานได้
คอมพิวเตอร์ : midrange computers
ถูกออกแบบสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลายๆคนเพื่อรองรับความต้องการสำหรับองค์กรขนาดกลางที่ต้องใช้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานสูง
มีผู้ใช้หลักร้อย หรือหลักพัน เข้ามาติดต่อ
ใช้สำหรับดูแลสินค้าคงคลัง การสั่งซื้อสินค้าและระบบงานอื่นที่ใช้ในบริษัท
คอมพิวเตอร์ : mainframes ( เช่น พวกธนาคาร ภาครัฐ เช่นสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบบจองตั๋วเครื่องบิน ระบบส่งจดหมายตามบ้าน(บิลค่าไฟ น้ำ โทรศัพท์) E-mail servers
คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่และมีความสามารถสูง
ความสามารถประมวลผลคำสั่งได้เป็นพันล้านคำสั่งต่อวินาที
สามรถจัดการเก็บข้อมูลได้หลายพันล้านตัวอักษร
คอมพิวเตอร์ : Supercomputers
สามารถประมวลผลคำสั่งได้เป็นล้านๆคำสั่งต่อวินาที
ถูกใช้สำหรับงานที่มีความซับซ้อนสูง ที่ต้องการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก
เช่น การพยากรณอากาศ งานวิจัยด้านอาวุธ งาน super effects
คาบหน้าเรียนเรื่องอินเตอร์เน็ต การสืบค้นและการทำงานรายงานข่าวทางอินเตอร์เน็ต
วิชา 301 คอมพิวเตอร์เพื่อการายงานข่าว
วันที่ 1 กรกฎาคม 2554
ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์(Software computer)
คือ ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่เป็นลำดับขั้นตอนที่ใช้สั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานและควบคุมการทำงานของส่วนประกอบต่างๆของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
ประเภทซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
- โปรแกรมที่สั่งการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่นระบบปฏิบัติการ windows
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application software)
- ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานด้านต่างๆ ตามความต้องการ
ระบบปฏิบัติการ (Operation system)
- โปรแกรมที่ทำหน้าที่ควบคุมและจัดการเกี่ยวกับการปฏิบัติการพื้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ประยุกต์ในการรับส่งปละจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดแวร์
หน้าที่
- บูด (booting)
- จัดการซีพียู (cpu management)
- จัดการแฟ้มข้อมูล file management
- จัดการงาน (task management)
- ฟอร์แมต (formatting)
ประเภทของ OS
- DOS : disk operating System :
1975 บิล เกตส์ พอล อัลเลน ก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ และได้นำเอาภาษาเบสิกที่พัฒนาขึ้นเองออกมาวางตลาด และให้ชื่อว่า ไมโครซอฟท์เบสิก ภาษาคอมพิวเตอร์นี้ได้กลายเป็นพื้นฐานให้แก่ธุรกิจลิขสิทธิ์ของซอฟท์แวร์ ซึ่งถูกผนวก(มักใช้ในรูปแบบของรอม) เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ในบ้านและเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลส่วนใหญ่ในช่วง คริสต์ทศวรรษที่ 70 และ 80
1976 บิล เกตส์ ได้เขียนจดหมายเปิดผลึกถึงผู้นิยมงานอดิเรกซึ่งสร้างความโกรธเคืองแก่ผู้นิยมเล่นคอมพิวเตอร์เป็นงานอย่างมาก โดยเขาประกาศว่าธุรกิจคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์มีตัวตนในตลาดการค้า และยังบอกว่าไม่ควรทำสำเนาซอฟต์แวร์แจกจ่ายกันโดยไม่ได้รับอนุญาตเจ้าของ
วินโดวส์ windows :
- เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟท์
- เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ.1985) และครองความเป็นที่นิยมในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของการใช้งานทั่วโลก (แรกผลิตมาจากไต้หวัน)
ยูนิกซ์ Unix
- เป็นระบบ)ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แบหลายงาน หลายผู้ใช้ ที่เริ่มพัฒนาโดยกลุ่มพนักงานของห้องปฏิบัติการ ATT and T (ปัจจุบันไม่มีแล้ว)
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ จะใช้งานวิศวกร..งานสำนักงานที่ใช้พร้อมกันเยอะๆ
ไม่มีปัญหา ไวรัส และ แฮกเกอร์ข้อมูล
แมคโอเอส Mac Os
- ระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์แมคอินทอชโดยทั้งคู่เป็นผลิตภัณฑ์ บริษัท แอปเปิล
- แมคโอแอลเป็นระบบปฏิบัติการที่มีส่วนต่อประสานงานกับผู้ใช้แบบกราฟฟิค(GUI)ที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์
- แรกสุดแมคโอเอส ถูกเรียก ซิเต็ม system และเปลี่ยนมาใช้คำว่าแมคโอเอส ครั้งแรกในแมคโอเอส ครั้งแรกในแมคโอเอส 7.6 (ค.ศ.1996) เนื่องจากเครื่องแมคเลียนแบบที่แพร่หลายในยุคนั้น ทำให้แอบเปิลต้องการแสดงว่าแมคยังเป็นลิขสิทธิ์ของตนอยู่ (สังเกตว่า แมค ไม่มีเครื่องประกอบเพราะต้องการรักษาลิขสิทธิ์ของตนเองอยู่)
โปรแกรมอรรถประโยชน์
Program
- โปรแกรมที่ทำหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมและขยายหน้าที่หรือการบริการศึกษาที่นอกเนื่องจากการใช้บริการของระบบปฏิบัติการ
o สำรองข้อมูล data backup
o กู้ข้อมูล data Recover
o ป้องกันไวรัส virus protection
o บีบอัดข้อมูล
o จัดระเบียบข้อมูล ฯลฯ
เทคโนโลยี
โทรคมนาคม
- พัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ด้านการสื่อสารทางไกล
- โทรเลข
- โทรศัพท์
- สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ( international telecommunication union) ให้ความหมายโทรคมนาคมขึ้นมา
- โทรคมนาคม หมายถึง การส่งสัญญาณเสียง ภาพ ผ่านสื่อสัญญาณทางสายหรือไร้สายด้วยระบบแม่เหล็กไฟฟ้า อาจเป็นไฟฟ้า แลงหรือวิธีอื่นๆ
องค์ประกอบพื้นฐานคมนาคม
- ผู้ส่ง
- สารสนเทศ
- เครื่องส่ง
- สื่อสัญญาณ
- เครื่องรับ
สัญญาณไฟฟ้าโทรคมนาคม
- เครื่องรับสัญญาณ มันจะทำหน้าที่แปลงสภาพสารสนเทศเป็นสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
o ลักษณะคลื่นต่อเนื่อง
การเปลี่ยนแปลงตามแบบค่อยเป็นค่อยไปเรียก อนาล็อก
o ลักษณะคลื่นไม่ต่อเนื่อง
เป็นภาวะไฟฟ้าที่มีสัญญาณไฟฟ้าและไม่มีไฟฟ้า สัญญาณไฟฟ้าเรียด ระบบสองสภาวะ binary system หรือสัญญาณดิจิตอล
- การบรรจบกันทางดิจิตอล
- เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมายถึง เทคโนโลยีที่มนุษย์ใช้ในการรับส่งประมวลผล เก็บรักษา ผลิตและเข้าถึงสารสนเทศ อาจเป็นเสียง อักขระ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวผ่านสื่อทั้งทางระบบสายและไร้สาย
- โทรศัพท์ประจำที่
- โทรศัพท์เคลื่อนที่
สรุปการสื่อสารข้อมูล
- การรับส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์กับเทอมินัล ระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ หรือระหว่างอุปกรณ์โทรคมนาคมกับอุปกรณ์โทรคมนาคม เช่น โทรสาร โมเด็ม
องค์ประกอบดาต้าเทอร์มินัล (Data terminal Equipment)
เป็นอุปกรณ์ต้นทางและปลายทางที่นำหน้าที่ส่งข้อมูล
- เมอร์มินัลที่สมรรถนะต่ำเรียกว่า ดัมป์เทอร์มินัล
- เทอร์มินัลที่สรรมรรถนะสูง เรียกว่า คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว คาบที่ 6
8 มิถุนายน 2554
- องค์ประกอบดาต้าเทอร์มินัล (Data terminal Equipment)
เป็นอุปกรณ์ต้นทางและปลายทางที่นำหน้าที่ส่งข้อมูล
- เมอร์มินัลที่สมรรถนะต่ำเรียกว่า ดัมป์เทอร์มินัล
(จะไม่มีที่เสียบไดรฟ์เลย)
- เทอร์มินัลที่สรรมรรถนะสูง เรียกว่า คอมพิวเตอร์
- อุปกรณ์ดาต้าคอมมิวนิเคชั่น
- ทำหน้าที่เป็นตัวประสานงานระหว่างอุปกรณ์ดาต้าเทอร์มินัลกับระบบสื่อสัญญาณ
o ทำหน้าที่แปลสัญญาณ
o
- สื่อสัญญาณ ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ดาต้าคอมมิวนิเคชั่น ต้นทางและปลายทาง
- ปัจจัยกำหนดความเร็วการรับ—ส่งข้อมูล
- อุปกรณ์ควบคุมการรับส่งข้อมูล
o อุปกรณ์ดาคาต้าเทอร์มินัล เช่น คอมพิวเตอร์
o อุปกรณ์ดาต้าคอมมิวนิเคชั่น เช่นโมเด็ม
- ระบบสื่อสัญญาณ ทำหน้าที่เป็นตัวนำข้อมูลจากต้นทางไปถึงปลายทาง
- ปริมาณข้อมูล ที่รับ-ส่ง
- เทคโนโลยรการสื่อสาร
- การสื่อสารข้อมูลทางสาย
- เทคโนโลยีโมเด็ม
มาจากคำว่า โมดูเลเตอร์ moduralator แปลว่า การแปลง
หมายถึงการแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นสัญญาณดิจิตอล
- เทคโนโลยีดีแอสแอล (digital subscriber line)
เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ข้อมูลความเร็วสูงสามารถเดินทางมายังบ้านหรือสำนักงานได้ ผ่านคู่สายโทรศัพท์ธรรมดาที่ทำด้วยทองแดง
- เทคโนโลยี ไอเอสดีเอ็น intergrated
o เป็นมาตาฐานของไอทียูที่กำหนดมาตรฐานสำหรับการรับ-ส่งข้อมูล ส่งสัญญาณผ่านทางสายโทรศัพท์หรือสัญญาณอื่นๆ
- เทคโนโลยีเคเบิ้ลโมเด็ม (cable modem)
o เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของการใช้บริการโทรทัศน์ตามสายเคเบิ้ลทีวี
- คู่สายเช่า – วงจรเช่า (teased line)
o สายโทรศัพท์หรือวงจรที่ให้เช่าสำหรับการใช้ส่วนบุคคลมีความเร็วต่ำจนถึงความเร็วสูง 140 กิกะบิตต่อวินาที (เป็นเทคโนโลยีแรกๆที่นำมาใช้ ปัจจุบันไม่ใช้แล้ว สังเกต แบงค์สมัยก่อนไม่เปิดสาขามาก...ปัจจุบันใช้เทคโนโลยี ดีเอสแอล ตู้ ATM มีทุกที่)
- การสื่อสารไร้สาย (เรียนไปแล้ว
- โทรศัพท์เคลื่อนที่
o เทคโนโลยีจีเอสเอ็ม (global system for mobile : GSM) เจ้าแรก อิเลคสัน
มีความเร็วไม่เกิน 9600 บิตต่อนาที
o เทคโนโลยีจีพีอาร์เอส
o เทคโนโลยีเอ็ดจ ให้ความเร็ว 32 กิโลบิตต่อนาที(ยุโรป)
o เทคโนโลยี ซีดีเอ็มเอ (ฝั่งอเมริกา)
- ระบบไมโครเวฟ (การสื่อสารแห่งประเทศไทยลงทุน ตอนนี้ คือป้องกันเครือข่ายเสีย)
- เทคโนโลยีดาเทียม ระบบดีบีเอส
o เป็นบริการแพร่สัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมด้วยความถี่สูงผ่านไมโครเวฟให้แก่สมาชิกโดยตรง ผู้รับจะต้องเป็นผู้ที่อุปกรณ์ถอดรหัสที่ซื้อมาจากบริษัทผู้ให้บริการ
- เทคโนยีคลื่นแสง
o ใช้แสงอินฟราเรดเป็นตัวกลางในการสื่อสาร เช่น ระบบ wireless lan ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายติดตั้ง
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์
o เครือข่าย หมายถึงจุดต่อหลายๆ จุดมาเชื่อมต่อกันเป็นเส้นทางคมนาคม
o คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลสารสนเทศด้วยคำสั่งหรือโปรแกรม
o หมายถึง กลุ่มของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่นำมาต่อเชื่อมกัน ตั้งแต่ 2 เครื่องไปเพื่อแบ่งปันการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น เครื่องพิมพ์ ไฟล์ข้อมูล และแลกเปลี่ยนข้อมูล
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์ระยะใกล้ local area network
o เครือข่ายที่เชื่อมต่อขนาดเล็กในพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก เช่น ภายในห้อง สำนักงาน หรือภายในอาคาร
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์ระยะไกล wide area network
o เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่กว่า man เช่น การเชื่อต่อระดับจังหวัดกับจังหวัดหรือระหว่างประเทศ
- เครือข่าย metropolitan wide area network
o เป็นเครือข่ายเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่กว่า lan เช่นการเชื่อมต่อระหว่างองค์กรในอำเภอหรือจังหวัด...
ประโยชน์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (เคยพูดไปแล้ว)
- เกิดการใช้ทรัพยากรหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ร่วมกัน
- มีกา
วิชา 301 คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว (คาบที่7)
วันที่ 23 กรกฎาคม 2554
วันนี้พูดถึงอินเตอร์เน็ต เครื่องมือการใช้งานทางอินเตอร์เน็ต เช่น ทวิเตอร์ เฟชบุ๊ค
อาจารย์แนะนำโปรแกรมฝากรูป/และตัดต่อแบบง่าย โปรแกรม picaza
อินเตอร์เน็ต คืออะไร
จุดเร็วตนของอินเตอร์เน็ต เป็นเรื่องความมั่นคงทางด้านความปลอดภัย และการทหาร
- อินเตอร์เน็ต มาจากคำว่า inter connection next work
- เป็นเรื่องของเครือข่ายที่ต่อกันเยอะๆ เชื่อมโยงกัน โดยมีการวางเป็นระบบ
- ลักษณะเครือข่าย เป็นลักษณะเครือข่ายใยแมงมุม เชื่อมต่อกันที่ครอบคลุมทั่วโลก สื่อสารกันได้หลายเส้นทางโดยไม่มีกำหนดตายตัว และไม่จำเป็นต้องไปตามเส้นทางโดยตรง อาจผ่านจุดอื่นหรือเลือกไปเส้นทางอื่นได้หลายเส้นทาง
- คอมพิวเตอร์เกิดช่วงสงครามเย็น เรื่องการทหาร และความเป็นไปได้ที่จะถูกโจมตีอาวุธ ปรมาณูหรือนิวเคลียร์
- เกิดโครงการพาเน็ต สังกัดกระทรวงกลาโหม
- จัดตั้งหน่วยวิจัยขั้นสูงของอเมริกา (appa) ตั้งมา จะทำอย่างไรให้คอมพิวเตอร์ทำให้เกิดเชื่อมโยงและส่งข้อมูลอัตโนมัติ (ในกรณีเครือถูกทำลายหรือเกิดความเสียหาย หรือข่ายที่เหลือทำงานได้ คือ มีเครื่องสำรองทำงานแทน)
- จดเริ่มต้นทำระบบในมหาวิทยาลัยก่อน ปัญหาต่อนั้น คือคอมทุกตัวต้องทำงานของระบบร่วมกันทั้งหมดหากตัวใดตัวหนึ่งหยุดทำงานลงไป ตัวอื่นก็ทำงานไม่ได้
- เริ่มสร้างตัวมาตรฐานกลางโปรโตคอล สื่อสารขึ้นเป็นแบบเดียวทั่งหมดและทำให้เครื่องข่ายเติบโตและขยายอย่างรวดเร็ว 1983 คอมพิวเตอร์ทุกตัวภายใน arpa net ใช้มาตรฐานเดียวกัน คือ tcp/ip
- เอกชนอยากใช้ ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ แยกเป็น 2 เน็ตเวิร์ก คือ milinet และarpa net
- เกิดหน่วยงาน nsf `
- เกิดหน่วยงาน commercial internet exchange (cix) ทางพาณิชย์ขึ้น เชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่น
- แนวคิดอินเตอร์เน็ตพัฒนาจาก NCP (network control protocol) และ TCP/IP ล่าสุดเรียก เป็น IP
- พัฒนาการใหม่มาทดแทน เช่น แพกเกจสวิตชิ่ง เหมือนขนส่งจรวดขนาดใหญ่ แต่ถอดข้อมูลเส่งเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ระบุต้นทาง ปลายทาง ตำแหน่ง เพื่อสะดวกในการประกอบข้อมูลกลับคืน และส่งได้รวดเร็ว (คล้ายๆส่งจดหมาย) การดาว์นโหลด การส่งเมลล์
- ระบบเครือข่ายมีขนาดใหญ่ จึงมีการจัดระบบคลาส และใช้ระบบหมายเลขไอพี แทนเครื่องคอมพิวเตอร์
- ระบบไอพีตัวเลขไม่พอ จึงเกิดระบบ โดเมนเนม โดย พอล มอคคา เพทริส www
- จากการพัฒนาขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดระบบพัฒนา เราเตอร์ โดยเป็นการแยกย่อย ไอพีคอมพิวเตอร์ ภายในระบบ
- เกิดระบบ อีเมล์ www แชท
คราวหน้า..เครื่องมือทางอินเตอร์เน็ต
คอมพิวเตอร์เพื่อการายงานข่าว
วิชา คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว คาบที่ 8
วันที่ 29 กรกฎาคม 2554
การทำงานของ TCP/IP
- Transnsmision control protocol
- TCP มีหน้าที่ตรวจสอบรับส่งข้อมูล ระหว่างคอมพิวเตอร์ ฝ่ายรับและส่งให้ได้รับข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน หากมีบางส่วนของข้อมูล ที่สูญหายไประหว่างทาง ก็จะแจ้งกลับไปให้ต้นทาง ส่งข้อมูลเฉพาะส่วนที่บกพร่องกลับมาใหม่
- Internet protocol
- Ip มีหน้าที่เลือกเส้นทางที่ใช้ รับ- ส่ง ข้อมูล และตรวจทานที่อยู่ของผู้รับ (ip address)
- หมายเลย ไอพี จะเป็นหมายเลขจุดหนึ่งที่มีขนาด 32 บิต หมายเลขชุดนี้ที่จะถูกแบ่งเป็นส่วน ส่วนละ 8 บิต เท่าๆกัน ในการอ้างถึงก็จะแปลงเลขนั้นเป็นเลขฐาน 10เพื่อความสะดวกใหผู้ใช้อ้างถึงได้ง่าย ดั้งนั้นตัวเลขในแต่ละส่วนนี้จะมีค่าตั้งแต่ 0-255 เท่านั้น เช่น 19.10.1.101 เป็นต้น
Domain name system
- การแทนหมายเลขไอพีด้วยชื่อคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการนั้น เรียนว่า ระบบโดเมน หรือดีเอ็นเอส
- การจัดชื่อและหมายเลข ไอพีที่ลงในฐานข้อมูลแบบลำดับขั้นในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่พิเศษเรียนว่าเซิร์ฟเวอร์ชื่อโดเมน
-
com กลุ่มธุรกิจการค้า
edu สถาบันการศึกษา
gov หน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่หน่วยงาน
mil หน่วยงานทหาร
net หน่วยงานกับเครือข่าย
org หน่วยงานไม่หวังผลกำไร
อินเตอร์เน็ตทำงานอย่างไร
เริ่มต้น สมัยก่อน เครือข่ายคอมพิวเตอร์ในมหาวิทยาลัย เรียกว่า เครือข่ายไทยสาร โดยมีจุฬาฯ เป็นแม่ข่าย
เครือมือบนอินเตอร์เน็ต
เครือมือมีมากมาย สำหรับการทำรายงานข่าวมีหลากหลาย
ถ้าแบ่งตามกลุ่ม ได้ดังนี้
1. บริการค้นหาข้อมูล
2. บริการโอนถ่ายข้อมูล
3. บริการมัลติมีเดีย
4. บริการด้านการติดต่อสื่อสาร
5. บริการรับส่งข่าวสารและแสดงความเห็น
- อินเตอร์เน็ตเป็นระบบขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมกว้างขว้างทั่วโลก โดยมีแฟ้มข้อมูลต่างๆมากมายหลายพันแฟ้มบรรจุอยู่ในระบบเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสืบค้นข้อมูลได้
พัฒนาการสื่อค้นข้อมูล
- อาร์ดี
- เป็นโปรแกรมที่ช่วยค้นแฟ้มที่ทราบชื่อแต่ไม่ทราบว่าแฟ้มนั้นอยู่ในเครื่องบริการได้ในอินเตอร์เน็ต
- โปรกรมจะสร้างบัตรรายการแฟ้มไว้ในฐานข้อมูลเมื่อต้นการค้นว่าแฟ้มนั้นอยู่ในเครื่องบริการใด ก็เพื่อเรียกใช้ อาร์ดีแล้วพิมพ์ชื่อแฟ้มข้อมูลนั้นที่ต้องการนั้นลงไป อาร์ดีจะตรวจสอบ
- โกเฟอร์
- Veronica เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ช่วย
- เวส
- สารานุกรม
- Bbs ระบบข่าวสารที่ผู้ใช้บริการในสังคมอินเตอร์เน็ตมีหลายระบบ เช่น ยูเน็ตนิวส์ ระบบสมาชิกแจ้งข่าวหลายสมาชิก บอกสมาชิก และให้ข่าวสารที่สม่ำเสมอกับสมาชิก โดยมีข้อปฎิบัติที่สำคัญในการใช้งานร่วมกัน สมัยก่อน คอมช้าข้อปฎิบัติ จึงเน้นให้ สั้น กระชับ ภาษาที่สุภาพ ควรมีหัวข้อเดียวต่อเรื่องฯลฯ
- Search engines เป็นเครื่องมือช่วยค้นหารข้อมูลในระบบอินเตอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เช่น google
คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว คาบที่ 9
วันที่ 9 กันยายน 2554
การเขียนเรื่องถ้าลอยๆ ไม่มีน้ำหนักพอ โดยเฉพาะงานเขียนบทความ หรือ ข่าวเชิงเศรษฐกิจ คือต้องมีข้อมูลไม่อย่างนั้นข้อมูลจะลอยๆ ไม่มีเหตุผล
คราวหน้า พรบ. คอมพิวเตอร์มีผลอย่างไรของการทำข่าว
เราต้องบอกที่มา
1. เขียนข่าวได้ดีขึ้น
2. ระมัดระวังมากขึ้น
เราต้องแตกประเด็น เช่น พรบ.เขียนข้อมูลต่างๆ ในกฎหมายมีการระบุให้ผู้ประกอบการณ์ด้านอินเตอร์เน็ตต้องเก็บข้อมูลเอาไว้ ทุกครั้งเป็นเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี อย่างกรณีเราค้นข่าว เราก็จะเจอข้อมูล ในการค้นภายในกำหนด
เหตุผล เช่นการอภิปราย
การวิเคราะห์ข้อมูล
การหาข้อมูลเพื่อการเขียนข่าว
1. โปรแกรมสเปรดชีต คือ
- โปรแกรมประเภทสเปรดชีต (spreadsheet) หรือตารางคำนวณ อิเล็กทรอนิกส์เป็นโปรแกรมที่ใช้เก็บข้อมูลในลักษณะต่างๆ ส่วนใหญ่นิยมเก็บ ข้อมูลตัวเลข ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณเพื่อใช้วิเคราะห์
- แผ่นตารางทำการ หรือ สเปรดชีต (อังกฤษ: spreadsheet) เป็นลักษณะข้อมูลที่มีการจัดเรียงในลักษณะตารางสี่เหลี่ยม ที่ใช้ในการคำนวณเป็นหลักและบางครั้งใช้ในการเก็บข้อมูล บางคนเรียกโปรแกรมนี้ว่า กระดาษทดเลขอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากตัวโปรแกรมจะมีความสามารถในการคำนวณทางคณิตศาสตร์มาก โปรแกรมประเภทนี้รุ่นแรกๆ มีชื่อว่า วิสิแคล (VisiCalc) ต่อมาก็มีการพัฒนาให้ดีขึ้นมาเป็น ซุปเปอร์แคล (SuperCalc) ต่อมาได้มีการพัฒนาจนเป็นที่นิยมแพร่หลายมากคือ โลตัส 1-2-3 จนไมโครซอฟเห็นถึงความสามารถของโปรแกรมประเภทนี้จึงพัฒนาของตนเองขึ้นเป็น ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล
โปรแกรมประเภทนี้จะมีการแบ่งเป็นช่องๆ เรียกว่า "เซล"(cell) โดยจะมีการระบุตำแหน่งของเซลเป็นแนวแถว ตั้ง(column) และแถวนอน (row)คือจะเรียกแถวตั้งเป็นตัวอักษร และแถวนอนเป็นตัวเลข เช่น A1 หมายถึงแถวตั้งที่ 1 และแถวนอนที่ 1 สำหรับไมโครซอฟท์ เอ็กเซลได้เพิ่มการเรียกให้ง่ายขึ้นโดยใช้เป็น R1C1 ได้ด้วย
โปรแกรมประเภทนี้ในยุคแรกๆ เมื่อต้องการใช้ฟังก์ชันเช่น File-> save ต้องมีการกดข้อความเข้าไปตามที่ต้องการ แต่พอมาเป็นโลตัส ก็สามารถกดตัวแทนได้เป็น F แทนคำว่า File และ S แทนคำว่า Save ในยุคของไมโครซอฟท์ เอ็กเซลโปรแกรมได้มีการพัฒนาอย่างมาก สามารถใช้คำนวณสูตรยากๆ ทางคณิตศาสตร์ สถิติ สร้างกราฟต่างๆ ใช้กับฐานข้อมูล (Database) เปิดไฟล์ข้อมูลประเภทต่างๆที่ไม่ใช่ .xls หรือแทรกรูปภาพบนตารางได้ สำหรับรายการที่เยี่ยมมากที่ไมโครซอฟเอ็กเซลมีก็คือ ไพว็อทเทเบิ้ล (Pivot Table)
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3
- การพัฒนาโปรแกรมจึงพัฒนาเป็น เอ็กซ์เซล
- ลักษณะของ เอ็กซเซล มีส่วนสำคัญ 2 อย่าง คือ แถว และคอลัมน์
- ส่วนมากใช้ในงานข่าวทางธุรกิจ การนำเสนอกราฟ เช่น กราฟวงกลม
- กราฟแนวตั้ง หรือข้อมูลเปรียบเทียบให้เห็นความต่าง
- กราฟเส้น ที่แสดงค่าข้อมูลและเห็นแนวโน้ม
- การจัดเก็บข้อมูล ที่เป็นตัวเลข เช่น ยอดสรุปรวม อัตราส่วน หรือทางสถิติ
- ฐานข้อมูลในรูปแบบรายการข้อมูล
- ข้อมูลแถว อธิบายบอกรายละเอียด
- ข้อมูลแต่ละคอลัมน์ในสิสต์เรียกว่า ฟีลด์ หมายถึงข้อมูลแต่ละเรื่อง
- การใช้ในงานข่าว
- 1. การจัดเก็บข้อมูล
- 2. วิเคราะห์ข้อมูล
- 3. วิเคราะห์ข้อมูลด้วยกราฟ
พรบ.ข่าวสารข้อมูล และ พรบ.คอมพิวเตอร์
ข่าวสารฯ เป็นเรื่องการเข้าถึงข้อมูล เราจะเข้าถึงอย่างไร เขาออกมาเพื่อ เข้าถึงข้อมูลราชการโดยเฉพาะ เป็นเรื่องเสรีภาพ ทุกคนมีเสรีภาพ รวมถึงสื่อมวลชน กฎหมายกำหนดเสรีภาพสื่อมวลชน
แนวคิดเรื่องเสรีภาพในไทย 2475 ถึง รธน.16 ฉบับ
รธน.2540 เน้นหลักการเสรีนิยม ทั้งการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางสังคม เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด ให้สิทธิเสรีภาพมากที่สุด โดยเฉพาะการสื่อสารมวลชน จน เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ใน รธน. ม. 39 40
สิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน
- คุ้มครองเสรีภาพของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน
- สิทธิรับข้อมูลข่าวสารสารสาธารณะ
- สิทธิจะรับข้อมูล คำชี้แจง และเหตุผลจากรัฐ ก่อนเริ่มโครงการ
- ขอบข่ายงานสารสนเทศที่ทั่วถึงและเท่าเทียม
คอมพิวเตอร์เพื่อการรายงานข่าว คาบที่ 10
วันที่ 16 กันยายน 2554
พรบ.ข้อมูลข่าวสาร
ความเป็นมา
- แนวความคิดของกลุ่มที่ปรึกษา พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ (2532-34) เกิด โครงการของรัฐประชาชนไม่รู้ รู้เฉพาะในวงราชการเท่านั้น เกิดกว้านซื้อที่ดิน เพื่อเกร็งกำไร ตอนเกิด พฤษฎาทมิษ เราน่าจะให้ข้อมูลข่าวสารประชาชนรู้ด้วย
- ความสอดคล้องกับแนวคิดเรื่อง “ความโปร่งใส” ของนายอานันท์ ปัญยารชุน (2534-2535) หลังจากยุบ พล.อ.สุจินดา เป็นร่างเดินเรื่องเกี่ยวกับ พรบ. ฉบับนี้ และประกาศก่อนใช้ รธน.2540
- ประกาศในราชกิจนุเบกษา 10 ก.ย.
แนวคิด พรบ. นี้
- เปิดเผยเป็น “หลัก” ปกปิดเป็น “ข้อยกเว้น” เช่น ความมั่นคงของประเทศ เชื้อพระวงศ์
- เปิดโอกาสให้ประชาชนมีโอกาสรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานต่างๆของรัฐ
- รับรองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการ (โดยเกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนด้วย เราเป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน)
หน่วยงานรัฐที่อยู่ภายใต้กฎหมายสามารถดูข้อมูลได้
- ราชการล่วนกลาง –ภูมิภาค – ท้องถิ่น – รัฐวิสาหกิจ – หน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อรัฐสภา – ศาล (คดีที่อยู่ระหว่างอยู่ในระหว่างพิพากษา) – องค์กรวิชาชีพ เช่น สภาทนายความ แพทยสภาฯ ฯลฯ – องค์กรอิสระของรัฐ
ประเภทข้อมูลที่เปิดเผยได้
- ข้อมูลข่าวสารที่ตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา (ม.7) คือการมีผลทางกฎหมาย หรือ จะมีผลทางฏกหมายเมื่อไหร่ เพื่อให้คนมาคัดค้าน
- ข้อมูลข่าวสารที่ต้องจัดไว้เพื่อประชาชนเข้ามาตรวจดูได้ด้วยตนเอง (ม.9) ส่วนมากตามเว็บไซต์ ต้องเอาข้อมูลขึ้นมาลงบนเว็บ
- ข้อมูลที่เปิดเผยตามที่เราขอไปมีคำขอเฉพาะราย คือ เราอยากดูข้อมูลของเรา เช่นขอดูกระดาษคำตอบ ที่เราสอบ แต่ดูได้เฉพาะราย
- ข้อมูลข่าวสารที่เป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ โดยหอจดหมายเหตุแห่งชาติ (ม.26)
ข้อมูลของรัฐที่อาจปฎิเสธได้
- ส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
- ก่อความเสียหายแก่ความมั่นคงของประเทศ
- ทำให้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ
- ความเห็นหรือข้อเสนอแนะเป็นการภายในของหน่วยงาน (ถือว่าเป็นความคิดหรือคำสั่ง เช่น ให้รีบดำเนินการโดยด่วน คำสั่งลับสุดยอด)
- ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต หรือความปลอดภัยของบุคคล (ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น เป็นเอดส์)
-
ขั้นตอนการเข้าถึงข้อมูล
- ดูจากราชกิจจานุเบกษา
- ตรวจสอบจากข้อมูลที่หน่วยงานเขาจัดแสดงไว้ เช่น บอร์ด หรือเว็บไซต์
- เขียนข้อมูลขอจากหน่วยงาน เช่น เอกสารเสนอไม่ครบ จะมีแบบให้
- หากถูกปฎิเสธใ ห้ขอทราบหตุผลของการปฎิเสธ ( การส่งข้อมูลข่าวสาร มีไอพีแอสเดรส ต้องเก็บไว้อย่างน้อย 6 เดือน)
- ทำหนังสือร้องเรียน หรืออุทธรณ์ไปยังสำนักงานข้อมูลข่าวสาร (หากไม่เปิดเผยข้อมูล)
- รอผลการพิจารณาของกรรมการวินิจฉัยเปิดเผยข้อมูล
- นำผลวินิจฉัยไปยื่นขอข้อมูล หากยังถูกปฎิเสธ ให้ฟ้องศาลปกครอง
-
ประโยชน์ของ พรบ.ข้อมูลข่าวสาร
- ทำให้หน่วยงานราชการตื่นตัวในการจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร
- เป็นเครื่องมือประชาชนและสื่อมวลชนในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
- ลดปัญหาทุจริตคอรัปชั่น
- ทำให้ประชาชนตระหนักถึง “สิทธิได้รู้”ของตนเอง
ตย. ผู้ปกครองขอเปิดเผยคะแนนสอบ
ต.ย. ญาติวีระชนขอเปิดเผยข้อเท็จจริง ปี 35
ปัญหาอุปสรรค
- หน่วยงานราชการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย (ทัศนคติของข้าราชการ)
- ไม่ยอมปฎิบัติตาม ม.7 9
- ดึงเรื่องไม่อยมปฎิบัตตาม ม. 11 (ในเวลาอันควร)
- ตอบปฎิเสธ ม 15 (โดยไม่สมเหตุผล)
ข้อสอบ มี 6 ข้อ
โดย คนที่ส่งงานส่งงานทำ ข้อ 1- 4 คนไม่ส่งงาน ทำ 1-6 ข้อ
ถ้ามีคนทำ 6 ข้อ นับจากตรงนั้นเลย แม้จะส่งงาน เนื้อหาข้อสอบ คร่าวๆ
๑. เนื้อหา อินเตอร์เน็ต
๒. เรื่องเกี่ยวกับ search engine
๓. excel
๔. อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ เช่น tablet เอาไปทำอะไรได้บ้าง ให้แสดงความคิดเห็น จะเอามาทำข่าวได้อย่างไร
ข้อสอบจะเป็นแนวโอเพ่น
๕ พรบ. ข่าวสารข้อมูล
๖ พรบ. คอมพิวเตอร์
ตย. แนวข้อสอบ ความแตกต่าง ระว่าง yahoo กับ google อย่างไร คือบรรยายลักษณะของมันก่อน ทั้งสองอัน ความแตกต่างอย่างไร ที่เราเขียนมา จัดระเบียบ เช่น yahoo ประเภท ต่างจาก google เช่น เรื่องของ keyword หรือ หน้าตา หรือ ความเร็ว หรือ ลูกเล่น
รวบรวมโดย อาณาจักรโกวิทย์
รวบคำบรรยายและแนวข้อสอบ JR 301 1/54
แนวข้อสอบ 301
ข้อสอบ มี 6 ข้อ
โดย คนที่ส่งงานส่งงานทำ ข้อ 1- 4 คนไม่ส่งงานทุกข้อ คือ 6 ข้อ
ถ้ามีคนทำ 6 ข้อ นับจากตรงนั้นเลย แม้จะส่งงาน เนื้อหาข้อสอบ คร่าวๆ
๑. เนื้อหา อินเตอร์เน็ต
๒. เรื่องเกี่ยวกับ search engine
๓. excel
๔. อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ เช่น tablet เอาไปทำอะไรได้บ้าง ให้แสดงความคิดเห็น จะเอามาทำข่าวได้อย่างไร
ข้อสอบจะเป็นแนวโอเพ่น
๕ พรบ. ข่าวสารข้อมูล
๖ พรบ. คอมพิวเตอร์
ส่วนใครส่งงานไม่ครบ สามารถทยอยส่งได้เลยนะครับมี 3 ชิ้น ครับ.
ข้อสอบ มี 6 ข้อ
โดย คนที่ส่งงานส่งงานทำ ข้อ 1- 4 คนไม่ส่งงานทุกข้อ คือ 6 ข้อ
ถ้ามีคนทำ 6 ข้อ นับจากตรงนั้นเลย แม้จะส่งงาน เนื้อหาข้อสอบ คร่าวๆ
๑. เนื้อหา อินเตอร์เน็ต
๒. เรื่องเกี่ยวกับ search engine
๓. excel
๔. อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ เช่น tablet เอาไปทำอะไรได้บ้าง ให้แสดงความคิดเห็น จะเอามาทำข่าวได้อย่างไร
ข้อสอบจะเป็นแนวโอเพ่น
๕ พรบ. ข่าวสารข้อมูล
๖ พรบ. คอมพิวเตอร์
ส่วนใครส่งงานไม่ครบ สามารถทยอยส่งได้เลยนะครับมี 3 ชิ้น ครับ.
แนวข้อสอบ JR 104
แนวข้อสอบ 104
วิชา 104 ท่านอาจารย์ให้กรอบกว้างๆ ในการอ่าน
1. ชื่อคน เหตุการณ์ สถานที่ พ.ศ. (พยายามทำความเข้าใจดีๆและจดจำ)
2. การวิเคราะห์เหตุการณ์ช่วงเวลานั้น เช่น ทำไหมสื่อตะวันตกถึงเจริญกว้าหน้า ทั้งที่เกิดหลังตะวันออก เช่นจีน
3. การกำเนิดของสื่อแต่ละประเภท เพราะอะไร?
4. แนวโน้มของสื่อในอนาคต
ส่วนที่อภิปรายกันในห้องส่วนหนึ่งที่ทำรายงาน ออก 20 ข้อ ครับ...
เนื้อหาประมาณนี้ครับ...
วิชา 104 ท่านอาจารย์ให้กรอบกว้างๆ ในการอ่าน
1. ชื่อคน เหตุการณ์ สถานที่ พ.ศ. (พยายามทำความเข้าใจดีๆและจดจำ)
2. การวิเคราะห์เหตุการณ์ช่วงเวลานั้น เช่น ทำไหมสื่อตะวันตกถึงเจริญกว้าหน้า ทั้งที่เกิดหลังตะวันออก เช่นจีน
3. การกำเนิดของสื่อแต่ละประเภท เพราะอะไร?
4. แนวโน้มของสื่อในอนาคต
ส่วนที่อภิปรายกันในห้องส่วนหนึ่งที่ทำรายงาน ออก 20 ข้อ ครับ...
เนื้อหาประมาณนี้ครับ...
แนวข้อสอบ JR 202
แนวข้อสอบ 202
วิชา 202 ข้อสอบมี 4 ข้อ นะครับ..
คลิ๊กที่ภาพนะครับภาพจะขยายใหญ่ขึ้น
ผมจะพูดกว้างๆ นะครับ..
เนื้อหาออกสอบประมาณ
1. หลักการ แนวคิด ทฤษฎี ทางวารสารศาสตร์
2. สื่อมัลติมีเดีย/ สื่อ ?? เป็นอย่างไร
3. คอมพิวเตอร์เพื่อการสืบค้น
4. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สื่อออนไลน์
วิชา 202 ข้อสอบมี 4 ข้อ นะครับ..
คลิ๊กที่ภาพนะครับภาพจะขยายใหญ่ขึ้น
ผมจะพูดกว้างๆ นะครับ..
เนื้อหาออกสอบประมาณ
1. หลักการ แนวคิด ทฤษฎี ทางวารสารศาสตร์
2. สื่อมัลติมีเดีย/ สื่อ ?? เป็นอย่างไร
3. คอมพิวเตอร์เพื่อการสืบค้น
4. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ สื่อออนไลน์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)